บาติสตูต้า น่าจะมีโอกาสที่ดีกว่ามากในการจะคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองสักสมัย ถ้าหากเขาย้ายออกจากสโมสร ฟิออเรนตินา ให้เร็วกว่าปี 2000 เพราะตามเวลาดังกล่าวนั้น เขาจะอายุ 31 ปีแล้ว แต่ว่าตัวของ สไตรเกอร์ทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้ก็ดันเป็นนักเตะที่ได้ใจแฟนบอล “วิโอลา” เป็นอย่างมาก เพราะเขายังคงภักดีต่อพลพรรค “ลา วิโอลา” เป็นอย่างยิ่งแม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในช่วงเวลาของเขาที่สวมเสื้อเบอร์ 9 ของสโมสรแห่งนี้ แม้จะมีสปอนเซอร์รายใหญ่ ชื่นชอบนักเตะรายนี้และอยากให้ย้ายมาซบอกสโมสรที่เขาเป็นผู้สนับสนุนด้วยก็ตามที
ผลงานสุดโดดเด่นของ “บาติโกล” ถ้าหากว่าหลายคนจดจำได้ก็คือ ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่เขาลงเล่นในสีเสื้อฟิออเรนตินา และได้เจอกับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเคยสวมวิญญาณ “เฮียวกะ โคจิโร” ตัวละครที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของ “โอโซระ ซึบาสะ” จากมังงะสุดฮิตอย่าง “กัปตันซึบาสะ” มาแล้วด้วยการกดด้วยอีขวาข้างถนัด ส่งบอลอัดตูมพุ่งเข้าตาข่ายราวกับเป็นลูกยิง “พยัคฆ์สายฟ้า” ของเฮียวกะ จนมันติดท๊อปลูกยิงสุดสวยในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนั้นไปอย่างง่ายดายเลยทีเดียว
ในที่สุดเมื่อเขาย้ายออกจากเมืองฟลอเรนซ์ เขาก็ใช้เวลา 3 ฤดูกาลในการเล่นให้กับสโมสร โรมา โดยเขามีโอกาสสัมผัสกับตำแหน่งแชมป์เซเรียอา เคียงข้างเพื่อนร่วมทีมระดับโลกอย่าง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ และรวมถึงตัวของ วินเซนโซ มอนเตลล่า กองหน้าชาวอิตาเลียน ในฤดูกาล 2000-01 และแน่นอนว่า เขาก็มีโอกาสได้ลงเล่นในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เกือบทุกฤดูกาลเลยทีเดียวในการค้าแข้งกับโรมา แต่สโมสรก็กลับล้มเหลวที่ตะคว้าถ้วยรายการนี้ เพราะส่วนใหญ่นั้น โรมา มีอันต้องตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเป็นประจำเลยทีเดียว